อ่านแล้วเล่า

พ่อ ภาคหนึ่ง

เรื่อง พ่อ ภาคหนึ่ง
ผู้แต่ง ปองพล อดิเรกสาร (พอล อดิเรกซ์)
สำนักพิมพ์ ประพันธ์สาส์น
เลขมาตรฐานหนังสือ 9742307702

พ่อ เป็นงานเขียนนวนิยายภาษาไทยเรื่องแรกของคุณปองพล
โดยเขียนลงในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2541

เล่มนี้จะเน้นที่สมเด็จพระมหาธรรมราชา ตั้งแต่ครั้งทรงเป็นขุนพิเรนทรเทพ
จนได้เป็นพระมหาธรรมราชา ครองเมืองพิษณุโลก
และเป็นสมเด็จพระมหาธรรมราชา กษัตริย์อยุธยาต่อจากพระมหินทร
มีพระธิดาและพระโอรสกับพระวิสุทธิกษัตรี คือพระนางสุพรรณกัลยา,
สมเด็จพระนเรศวรฯ, และสมเด็จพระเอกาทศรถ
ซึ่งถ้าดูภาพยนตร์เรื่องสุริโยทัย และนเรศวร ของท่านมุ้ยมา จะอ่านได้ง่ายขึ้นมาก

โดยวิธีเล่า ผู้เขียนได้ผูกเรื่องให้เป็นนิยาย อ่านง่าย ได้ประวัติศาสตร์
ภาษดี เล่าเรื่องเป็นจังหวะจะโคนดีมาก
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเขียนเรื่องราวในประวัติศาสตร์ออกมาเป็นนิยาย
เล่าเรื่องที่ไม่ว่าคนเขียนหรือคนอ่านต่างก็ไม่เคยเห็น ให้ออกมาเป็นภาษาสละสลวย
จนคนอ่านสามารถจินตนาการภาพตามได้

ประวัติศาสตร์ภายในเล่มแน่นมาก ผสมกลมกลืนกับส่วนที่เป็นนิยายได้กลมกล่อม
แต่ไม่หวือหวา ไม่มีเซอร์ไพรส์ เรื่องราวเป็นไปตามประวัติศาสตร์นั้นแล
มีลุ้นบ้าง ตื่นเต้นบ้าง ตอนทำศึกติดพัน มีผู้ได้เปรียบเสียเปรียบสลับกันไป
แต่ก็จะมีช่วงที่เราเบื่อๆ ง่วงๆ บ้าง คือช่วงที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งวางแผนรบ

ในฐานะที่เป็นผู้หญิง (มั๊ง) เราเลยอ่านเรื่องนี้ได้ไม่สนุกเท่าที่คิด
เนื้อหาส่วนมากไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์แบบพ่อลูกเท่าที่คิด
แต่ไปเน้นหนักลงรายละเอียดด้านกลศึก
ซึ่งไม่สนุกเลยสำหรับเรา (รู้สึกผิดยังไงไม่รู้สิ
ทั้งๆ ที่ผู้เขียนอตส่าห์ค้นคว้าข้อมูลมาละเอียดขนาดนี้)
ชื่อตัวละคร ชื่อแม่ทัพต่างๆ ซึ่งก็คุ้นหูกันดีอยู่ทั้งฝ่ายไทยฝ่ายพม่า
(อย่างเช่น พระเทียรราชา (พระมหาจักรพรรดิ), สมเด็จพระสุริโยทัย, พระราเมศวร,
พระวิสุทธิกษัตรี, พระบรมดิลก, พระเทพกษัตรี, พระมหาธรรมราชา, พระเจ้าตะเบงชเวตี้,
พระเจ้าบุเรงนอง, พระเจ้าแปร, มังสินธุ, สมิงทอราม, มังชัยสิงห์
ขุนอินทรเทพ, หลวงศรียศ, หมื่นราชเสน่หา, เจ้าพระยาศรีธรรมาโศกราช,
พระยามหาเสนาบดี, พระยารมณรงค์, พระยาจักรี ฯลฯ)
แต่พอทำศึกหลายศึก ตีเมืองเล็กเมืองน้อยมาเรื่อย
ให้แม่ทัพคนนั้นเข้าตีฝั่งนี้ แม่ทัพคนนี้ตีกระนาบฝั่งนู้น
พอตีหลายๆ เมืองเข้า ก็ชักจะมึนและสับสนพอสมควร
จะอ่านสนุกก็เฉพาะแต่งศึกสำคัญๆ ที่เราเคยเรียนมาแล้ว และยังจำได้อยู่
ตรงนั้นก็จะอ่านสนุกมาก

ระหว่างอ่าน เราจะได้เห็นเกมและการแก้เกม
ได้เห็น กลศึก เชิงรบ พระปรีชาสามารถ ของกษัตริย์ไทยและกษัตริย์พม่า
ได้เห็นปฏิภารไหวพริบของทั้งแม่ทัพฝ่ายไทย และแม่ทัพฝ่ายพม่า
ทั้งข้อมูลความรู้ในเชิงประวัติศาสตร์ และเรื่องเล่าผสมจินตนาการในเชิงนิยาย
ผสมกลมกลืนกันได้อย่างพอเหมาะ ลงตัว

ส่วนที่เสริมเข้ามา นอกเหนือไปจากนิยายนั้น
บางจุด เรามองว่ามีความสุ่มเสี่ยงอยู่พอสมควร
ผู้อ่านต้องมีวิจารณญาณว่านี่เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์
เราไม่มีทางรู้ว่าแท้จริงแล้วตัวละครอันตัวอยู่จริงแต่ละพระองค์นั้น
ทรงคิดเห็นเช่นไรจึงกระทำการณ์ดังเช่นที่ประวัติศาสตร์บันทึก
ความคิดเห็นต่างๆ ที่มีในหนังสือเล่มนี้ ล้วนแต่เป็นจินตนาการของผู้เขียน
ซึ่งอาจจะจริงก็ได้ ไม่จริงก็ได้ .. ไม่ควรยึดถือว่าเป็นความจริงไปเสียทั้งหมด
สิ่งที่เราควรรับรู้ เข้าใจ และจดจำ คือข้อมูลในส่วนของประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริง
ซึ่งผู้เขียนมาย่อยให้ง่ายต่อการเสพต่างหาก

สำหรับเล่มแรกนี้ เรื่องเริ่มต้นในตอนที่ขุนวรวงศาธิราช กับท้าวศรีสุดาจันทร์ –
ถูกสำเร็จโทษ และพระเทียรราชาขึ้นเป็นพระมหาจักรพรรดิ
และจบลงหลังจากที่บุเรงนองยกทัพตีกรุงศรีอยุธยา และทำสัญญาหย่าศึก
นำพระราเมศวร และพระนเรศวรไปเป็นองค์ประกันแล้ว
และพระเจ้าบุเรงนองยังได้ยกทัพกลับมาตีกรุงศรีอยุธยาอีกรอบ
ซึ่งครั้งหลังนี้อยุธยามีทีท่าว่าจะแข็งเมือง โดย
เจริญสัมพันธไมตรีกับล้านช้าง
ศึกครั้งนี้พม่ายกทัพมาปิดล้อมกรุงศรีอยุธยาถึงเจ็ดทัพ
ในช่วงนี้เองที่อยุธยาเปลี่ยนแผ่นดินจาก
พระมหาจักรพรรดิซึ่งประชวรและเสด็จสวรรคตลงก่อนกรุงแตก
และพระมหินทรทรงขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระมหินทราธิราช
เราจำประวัติศาสตร์ช่วงนี้อย่างรางเลือน ..
และเรื่องก็จบลงตรงนี้ รอไปต่อเล่มสองจ้า

Comments are closed.